Nouns ( คำนาม )
Types ( ชนิดของคำนาม )
Types ( ชนิดของคำนาม )
คำนาม ( Nouns ) หมายถึงคำที่ใช้เรียกคน
สัตว์ สิ่งต่างๆ สถานที่ คุณสมบัติ สภาพ อาการ การกระทำ ความคิด ความรู้สึก
ทั้งที่มีรูปร่างให้มองเห็น และไม่มีรูปร่าง การแบ่งคำนามสามารถจำแนกได้หลายแบบแล้วแต่ตำรา
เท่าที่รวบรวมนำเสนอในที่นี้มี
4 แบบ
คือ
แบบที่ 1
แบ่งคำนามเป็น
2 ประเภท
แบบที่ 2 แบ่งคำนามเป็น 3 ประเภท แบบที่ 3 แบ่งคำนามเป็น 4 ประเภท แบบที่ 4 แบ่งคำนามเป็น 7 ประเภท
ซึ่ง ใน 7 ประเภทนี้
3 ประเภทสุดท้ายได้แก่
material nouns, concrete nouns และ mass nouns อาจจัดอยู่ในกลุ่ม
common nouns ได้ดังนี้
1.Common Noun (นามทั่วไป)
เป็นคำนามที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ทั่วๆไป ความคิด ( person,
animal, place, thing, idea ) โดยไม่เฉพาะเจาะจง กล่าวโดยสรุปคือ คำนามทั้งหลายที่ไม่ใช่ proper
nouns คือ common nouns เช่น
สิ่งของ boy,
sign, table, hill, water, sugar, atom, elephantสถานที่ city, hill, road, stadium, school,company เหตุการณ์ revolution, journey, meeting
ความรู้สึก fear, hate, love
เวลา year, minute, millennium
Ther are many children on the beach. Children love
to swim.
คำนามประเภทอื่นมีคำอธิบายดังนี้
3.Abstract Nouns
เป็นคำนามของสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5
( touch- สัมผัสได้, sight-มองเห็นได้, taste-ชิมได้ ,
hearing- ได้ยิน, smell- ได้กลิ่น ) เป็นนามที่บอกลักษณะ สภาวะ อาการ
เมื่อแปลเป็นภาษาไทยมักจะมีคำว่า ความ การนำหน้าอยู่ด้วยรวมทั้งชื่อศิลปวิทยาการต่างๆ
Abstract Nouns จะมีที่มาจากคำกริยา ( verb) ,คำคุณศัพท์ ( adjective) และ คำนาม ( noun)
ด้วยกันเองบ้าง
เช่น
4.Collective Nouns
เป็นคำนามของสิ่งที่เป็นหมวดหมู่ กลุ่มของคน สัตว์ สิ่งของ เช่น family
, class, company, committee, cabinet, audience, board, group, jury, public,
society, team, majority orchestra, party เป็นต้นรวมทั้ง a flock of birds, a herd
of cattle ,a fleet of ships เป็นต้น
อาจจะใช้คำกริยารูปของเอกพจน์หรือพหูพจน์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้
ว่าต้องการให้เป็นหนึ่งเดียวหรือเป็นแต่ละส่วน แต่คำนามยังเป็นรูปเดิม
เปลี่ยนแต่รูปกริยา เช่น
เอกพจน์ : The average British family has 3.6
members.
ครอบครัวชาวอังกฤษ (ครอบครัวหนึ่ง ) มีสมาชิกโดยเฉลี่ย 3.6 คน พหูพจน์: The family are always fighting among themselves. ครอบครัวนี้มักจะทะเลาะกันเอง ( ประโยคนี้มีความหมายว่าสมาชิกในครอบครัวต่างทะเลาะกันเองทั้งครอบครัว จึงใช้กริยาเป็นพหูพจน์ )
เอกพจน์: The committee has reached its decision. คณะกรรมการได้ผลการตัดสินใจ
( ของคณะกรรมการรวมกันทั้งคณะ) พหูพจน์: The committee have been arguing all morning over what they should do. คณะกรรมการเถียงกันตลอดทั้งเช้าว่าควรจะทำ อะไร ( กรรมการแต่ละคนนับเป็น 1 หน่วย ทั้งคณะจึงเป็นพหูพจน์ )
Collective noun บางคำมีความหมายเป็นพหูพจน์เท่านั้น เช่น
people, police, cattle
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบ คำวลีผสมด้วย of เพื่อเน้นให้ความเป็นหมู่หรือคณะให้ชัดเจนขึ้น
รูปแบบคือ Collective noun + of + commonnoun ตัวอย่างเช่น
a flock of birds a group of students a flock of sheep a pack of cards a herd of cattle a bunch of flowers a fleet of ships a kilo of pork
5.Concrete Nouns
เป็นคำนามของสิ่งที่มีรูปร่างสามารถสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5
( touch- สัมผัสได้, sight-มองเห็นได้, taste-ชิมได้ ,
hearing- ได้ยิน, smell- ได้กลิ่น ) เช่น book , chair, water, oil
, ice cream เป็นทั้งนามนับได้ และนับไม่ได้ มีลักษณะตรงกันข้ามกับ abstract
nouns.
6.Material Nouns
a bowl
of rice two
glasses of water
two
boxes of cereal a loaf
of bread
five
bottles of beer a
slice of pizza
a cup
of tea a
piece of paper
three
bars of soap a
quart of milk
แต่ในการใช้ material nouns ส่วนมากจะพูดสั้นๆ เช่น ในประโยคเกี่ยวกับ tea
( ชา )
พูดในร้านอาหาร : I want some tea. ฉันขอชาหน่อยใ( ในที่นี้หมายถึง I want a cup of tea. ) พูดในซูเปอร์มาร์เก็ต: I want some tea. ในที่นี้ผู้พูดหมายถึง I want a packet of tea. พูดในร้านอาหารซึ่งมีชาหลายชนิด หลายยี่ห้อให้เลือก เช่น ชาจีน ชาเขียว ชาญี่ปุ่น ชาอู่หลง เป็นต้น : I like their teas. หมายถึง I like their selection of teas. (ฉันชอบชาหลากหลายชนิดที่มีให้เลือกของร้าน)
7.Mass nouns
เป็นคำนามสิ่งของที่นับไม่ได้ ทั้งมี และไม่มีตัวตน ( uncountable
nouns และ abstract nouns ) เช่น sugar, iron , butter, beer, money,
blood, furniture, vehicle, courage,gratitude, mercy , accuracy มีลักษณะดังนี้
คือ
หมายเหตุ
* บางตำรา mass nouns คือmaterial nouns + concrete nouns และแยก abstract nouns ออกเป็น nouns อีกประเภทหนึ่ง *คำนามบางคำตามความคิดของคนไทยน่าจะเป็นสิ่งของที่นับได้เช่น furniture, luggage ,equipment, money แต่ในภาษาอังกฤษ จะมองเป็นของที่นับไม่ได้ จะนับได้ต่อเมื่อแยกเป็นส่วนย่อย เช่น furniture แยกเป็น table, chair เป็นต้น
หากสรุปโดยคิดว่าคำนามมี 7 ประเภท
การแยกกลุ่มจะเป็นไปตามตารางข้างล่างนี้ โดยตัวอย่างในบางคำนามจะซ้ำกับในคำนามอื่น
เช่น water จะเป็นทั้ง concrete nouns และ material nouns และ honesty
เป็นทั้ง
mass nouns และ abstract nouns
ตาราง การใช้ articles นำหน้าคำนาม ซึ่งในที่นี้เป็นหลักทั่วไปไม่รวมข้อยกเว้นต่างๆ
(ดูรายละเอียดข้อยกเว้นได้ในเรื่อง Articles )
Decide whether these nouns are countable (C) or uncountable (U)
Answer
1. C
2. U
3. U
4. C
5. U
6. C
7. U
8. C
9. C
10. U
11. C
12. C
13. C
14. U
15. C
16. U
17. C
18. U
19. C
20. C
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น